นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน (PDPA)

นโยบายความเป็นส่วนตัวและระเบียบปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน (PDPA)

กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ (บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เมดิคัล จำกัด, บริษัท ลิ้งค์เอเชีย จำกัด และบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ โฮลดิ้ง จำกัด รวมเรียกว่า “บริษัทฯ”) มีความตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงจัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทฯ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน (“ท่าน”) ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุถึง ตัวเจ้าของข้อมูลหรือทำให้ระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของ ผู้ถึงแก่กรรม ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ไม่ว่าเจ้าของข้อมูลได้ให้ข้อมูลไว้หรือมีอยู่กับบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานราชการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาของบริษัทฯ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงาน องค์กร นิติบุคคลใด ๆ ที่มีสัญญากับสถาบันหรือที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทฯ บุคคลที่เจ้าของข้อมูลแต่งตั้งหรือให้เป็นตัวแทน หรือจากแหล่งสาธารณะอื่นใด

วัตถุประสงค์ของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และใช้งานโดยสุจริต และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายและระเบียบปฏิบัติให้ผู้เก็บ ผู้ควบคุม ผู้ใช้ข้อมูลและพนักงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้

ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1.บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้ฐานกฎหมาย ดังต่อไปนี้

1.1 ความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อทำสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น สัญญาจ้าง โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้ประกอบการทำสัญญาจ้างและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเป็นพนักงานของบริษัทฯ เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงาน การจัดสวัสดิการ วันหยุด วันลา การจัดทำประกันภัยกลุ่ม สิทธิประโยชน์และการบริหารจัดการด้านการสมัครงาน และการจ้างแรงงาน ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นดังกล่าว จะมีผลทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการรับสมัครและว่าจ้างท่านเข้าปฏิบัติงานได้

1.2 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของบริษัทฯ กฎหมายแรงงาน พรบ. กฎกระทรวง ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการลูกจ้างหรือพนักงานของบริษัทฯ การบริหารจัดการด้านภาษีอากรของพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล เป็นต้น

1.3 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การดำเนินการเพื่อรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ในความดูแลของบริษัทฯ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก่อนเข้าสู่กระบวนการทำสัญญา การตรวจสอบประวัติการทำงานย้อนหลังจากแหล่งข้อมูลอื่น การวิเคราะห์ความเหมาะสม เปรียบเทียบ คัดเลือกผู้สมัครงานตามคุณสมบัติที่บริษัทฯ กำหนดไว้ รวมถึงการบริหารจัดการหรือการดำเนินกิจกรรมภายในของบริษัทฯเป็นต้น

1.4 การได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่าน ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่านตามกฎหมาย เช่น การตรวจประวัติอาชญากรรม การเก็บข้อมูลชีวภาพเพื่อการลงทะเบียนเข้าออกงาน การจัดการสื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ซึ่งมีพนักงานปรากฎเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด การประกาศวันเกิด หรือการแสดงความอาลัยเกี่ยวกับความสูญเสียบุคคลในครอบครัวของพนักงาน การใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเก็บหลักฐานและการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคารสถานที่ของบริษัท เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน เป็นต้น

2.บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งเข้าเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ ตามกฎหมายแรงงาน พรบ. กฎกระทรวงหรือประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินการตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับพนักงานของบริษัทฯ

การเก็บ รักษา ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล

1. บริษัทฯให้ความเคารพสิทธิส่วนบุคคลของพนักงานอย่างสูงสุด

2. บริษัทฯจะขอข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเท่าที่จำเป็นในการบริหาร หรือ ตามที่กฎหมาย หรือ ตามที่องค์กร หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกำหนดเท่านั้น

3. บริษัทฯ จัดให้มีการเก็บ รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรัดกุม เข้าถึงข้อมูลได้ยาก ปกปิดเป็นความลับ

4. บริษัทฯ กำหนดหน้าที่ของผู้เก็บข้อมูล ผู้ประมวลผลข้อมูล ผู้รักษา ผู้ใช้ ผู้อนุมัติการใช้ รวมถึงขั้นตอนการตรวจสอบให้ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานได้รับการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและใช้งานโดยสุจริต

5. พนักงานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกคน มีสิทธิในการขอดู ตรวจสอบ เข้าถึงข้อมูลนั้นได้ตลอดเวลาที่มีการเก็บรักษา รวมถึงมีหน้าที่แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล หรือ นำส่งข้อมูลในกรณีที่บริษัทฯ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องขอเพิ่มเติม

6. พนักงานที่เป็นชาวต่างชาติ ต่างด้าว จะเก็บรักษา และใช้ข้อมูลเช่นเดียวกับพนักงานคนไทย

7. กรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ต้องการทราบข้อมูลใดๆของพนักงาน ให้ทำเป็นหนังสือระบุเหตุผลความจำเป็นที่ต้องการมาให้ผู้ควบคุมข้อมูลพิจารณาอนุมัติก่อน ห้ามเปิดเผยหรือให้โดยไม่ได้รับอนุมัติ

8. ในกรณีที่หน่วยราชการขอข้อมูลของพนักงาน ให้แจ้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลพิจารณา ทบทวน ก่อนส่งให้ ยกเว้นการส่งให้ตามรอบปกติที่กฎหมายกำหนด เช่น ประกันสังคม สรรพากร คุ้มครองแรงงาน ให้ส่งได้เลยและบันทึกการส่งไว้เพื่อการตรวจสอบ

9. การส่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไปยังต่างประเทศ ให้กรรมการผู้จัดการเป็นผู้อนุมัติ และ ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

10. ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทฯเก็บรักษาไว้นี้ บริษัทฯจะรักษาเสมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สินของ บริษัทฯเอง ห้ามมิให้ผู้ใดทำการละเมิด เปิดเผย เข้าถึง นำไปหาประโยชน์ส่วนตัว หรือทำลาย ข้อมูลนี้โดยไม่ได้รับอนุมัติจากผู้ที่บริษัทฯมอบหมาย ผู้ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาลงโทษในอัตราสูงสุดและหรือดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเต็มจำนวนตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

11. การเก็บ รักษา ใช้ ตรวจสอบ ทบทวน อนุมัติ หรือ ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้ ให้ทำเป็นความลับเท่าที่จำเป็นโดยสุจริต และให้ถือว่าข้อมูลลับส่วนบุคคลของพนักงานนี้เป็นข้อมูลลับในระดับสูงสุด

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

1. ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่มีคุณภาพของท่าน บริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่บริหารงาน หรือด้วยวิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ดังนี้

1.1 ข้อมูลที่เก็บโดยตรง ผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เกี่ยวกับการกรอกใบสมัครงาน หรือการที่ท่านนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทฯโดยตรงผ่าน Application อื่น เช่น Line, Facebook, เว็บไซต์ เป็นต้น

1.2 ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานของท่านในเว็บไซต์บริษัทฯ เช่น คุกกี้ ข้อมูลการใช้อุปกรณ์สื่อสาร คอมพิวเตอร์ อีเมล อินเตอร์เน็ต Line Facebook เป็นต้น

1.3 ข้อมูลที่เก็บรวบรวมระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น ข้อมูลครอบครัวของพนักงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รหัสพนักงาน เงินเดือน ค่าตอบแทน โบนัส ตำแหน่ง สวัสดิการ ภาษีอากร วันที่เริ่มจ้าง วันสิ้นสุดการจ้าง งานที่ได้รับมอบหมาย ผลการประเมิน การโยกย้าย ประวัติการฝึกอบรม บันทึกการลา ข้อมูลความประพฤติ ข้อมูลจำลองใบหน้า ประวัติอาชญากรรม ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น

2. บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่

2.1 เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด

2.2 เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

2.3 เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่าน

2.4 เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

2.5 เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ

3. บริษัทฯ จะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเกี่ยวกับลักษณะทางพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ หรือข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่

3.1 ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากท่าน

3.2 เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด

3.3 เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

3.4 เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่าน

3.5 เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล(6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ

4. บริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงให้ทันเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯดียิ่งขึ้น

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการบริหารงาน

บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ และจะไม่ใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่านหรือได้รับอนุญาต หรือตามที่กฎหมายกำหนดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆในใบสมัครงาน และเอกสารประกอบการสมัครงานที่บริษัทฯกำหนด ถือเป็นข้อมูลที่จำเป็นที่บริษัทฯ ต้องรู้เพื่อจัดงานให้ทำตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และเหมาะสมกับคุณสมบัติส่วนตัวของแต่ละคน รายการข้อมูลส่วนบุคคลและเหตุผลที่จำเป็น ให้เป็นไปตามเอกสารที่บริษัทฯกำหนด

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีสิทธิขอเพิ่มเติมขณะทำงาน เช่น

2.1 สถานภาพสมรส รายชื่อคู่สมรส บุตร เพื่อจัดสวัสดิการให้เพิ่มเติม หรือ เพื่อคำนวณลดหย่อนภาษี

2.2 ใบรับรองแพทย์ ผลการตรวจสุขภาพ หรือ เอกสาร ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรักษาอาการเจ็บป่วย ทั้งนี้บริษัทฯจะใช้โดยสุจริตเฉพาะกรณีที่

ก. เพื่อช่วยเหลือ รักษา ที่ถูกต้อง รวดเร็ว

ข. เพื่อพิจารณาจัดงาน เปลี่ยนงานให้เหมาะสมกับสุขภาพ

ค. เพื่อป้องกันการระบาดไปสู่เพื่อนร่วมงาน หรือ สาธารณะ

2.3 แผนที่ รูปถ่าย หรือ ข้อมูลอื่นเกี่ยวกับที่พักอาศัย เพื่อพิจารณาไปเยี่ยมอาการป่วย เยี่ยมคลอด หรือ ช่วยเหลือความเดือดร้อนอื่น รวมถึงเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของพนักงาน

2.4 ทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อการอนุญาตเข้า – ออกพื้นที่ของบริษัทฯ หรือ การจัดที่จอดให้ปลอดภัยและเพียงพอ

2.5 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด ที่บริษัทฯพิจารณาเห็นความจำเป็นในทางการบริหาร หรือ ตามที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทฯเก็บรวบรวมที่จะมีต่อไปในอนาคต

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่จำเป็นในการบริหารงาน มีดังนี้

yoast seo

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคล/หน่วยงานภายนอก

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ได้แก่

1. บริษัทประกันภัย เพื่อการจัดทำประกันภัยกลุ่มให้แก่พนักงานของบริษัทฯ

2. เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่หรือที่มีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การรายงานข้อมูลพนักงานตามที่กฎหมายกำหนด การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งศาล เป็นต้น

3. คู่สัญญา พันธมิตรหรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการของบริษัท เช่น สถานศึกษา สถานฝึกอบรม องค์กรเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญา โรงแรม วัด มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นๆ เป็นต้นต้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัทฯ

4. บุคคลหรือองค์กรที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภารกิจของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ดำเนินการ วิเคราะห์ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการให้แก่บริษัทฯ บริษัทรับทำบัญชี บริษัทรับทำเงินเดือนของพนักงาน เป็นต้น

การเก็บรักษาและระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา ดังต่อไปนี้

สำหรับผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงาน เก็บรักษาไว้ 1 ปี นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล และสำหรับพนักงาน เก็บรักษาไว้ตลอดระยะเวลาการจ้างงาน และเก็บรักษาไว้ต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันที่สัญญาจ้างสิ้นสุดลง

ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง แอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ อีเมล โดยมีวันที่ที่ระบุการปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การยื่นเอกสารสมัครงานของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้แล้ว ทั้งนี้ โปรดระงับการยื่นสมัครงานหรือติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคล กรณีที่ท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ มิเช่นนั้นบริษัทจะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในประกาศดังกล่าวแล้ว

การติดต่อขอดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

เมื่อเจ้าของข้อมูลต้องการขอใช้สิทธิของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการเข้าถึงข้อมูล / การเปิดเผยข้อมูล / การแก้ไขข้อมูล / การโอนย้ายข้อมูล / การขอคัดค้าน / การดำเนินการลบหรือทำลาย / การเพิกถอนความยินยอม และหรือการขอใช้สิทธิอื่นๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ประเภทสิทธิร้องขอให้ดำเนินการของเจ้าของข้อมูล ขึ้นอยู่กับนโยบายการเก็บ รวบรวม รักษา ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่บริษัทฯ พิจารณาเห็นความจำเป็นในทางการบริหาร และภายใต้พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นลายลักษณ์อักษรดังต่อไปนี้

ที่อยู่ : บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)
แผนกทรัพยากรบุคคล ชั้น 2
เลขที่ 48 ซ.รุ่งเรือง ถ.รัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

ที่อยู่อีเมล : personnel@interlink.co.th
ranyapha@interlink.co.th
varisa@interlink.co.th

ทั้งนี้ ก่อนการแสดงเจตนา ข้าพเจ้าได้อ่านรายละเอียดจากเอกสารชี้แจงข้อมูล หรือได้รับคำอธิบายจากบริษัทฯ ถึง วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน โดยมีความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว และเห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนาและความประสงค์ของข้าพเจ้าทุกประการ รวมทั้งข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดที่ระบุในเอกสารฉบับนี้ด้วยความสมัครใจ โดยปราศจากการบังคับหรือชักจูง

กรณีที่ข้าพเจ้าประสงค์จะขอถอนความยินยอม ข้าพเจ้าทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมของข้าพเจ้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้